เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์

การเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์เบื้องต้น

การเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญสำหรับทุกคนที่มีรถยนต์เป็นของตนเองจะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอไม่ว่ารถยนต์นั้นจะเป็นรถยนต์เก่าหรือว่ารถยนต์ใหม่ก็ตาม เนื่องจากการตรวจสอบเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก่อนตัดสินใจทำประกันนั้นจะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและความคุ้มครองต่าง  ๆ ทีคุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการของเราได้มากที่สุดนั่นเอง

สำหรับใครที่คิดว่าการเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นถือว่าเป็นเรืองที่ยุ่งยาก เพราะไหนจะต้องติดต่อตัวแทนหรือหาข้อมูลต่าง ๆ มากมายเพื่อประกอบการตัดสินใจแล้วละก็ ขอบอกว่าลืมขั้นตอนนั้นไปได้เลยค่ะ เพราะเนื่องจากว่าตอนนี้การเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ผ่านโซเชียลมีเดียหรืออินเตอร์เน็ตตามช่องทางต่างๆมากมาย  ที่ให้บริการเกี่ยวกับการเช็คข้อมูลประกันภัยรถยนต์ การสมัครประกันภัยของบริษัทต่างๆได้โดยง่ายดายผ่านอินเตอร์เน็ตกันแล้วในยุคปัจจุบัน

ขั้นตอนการเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ผ่านเว็บไซต์หรือออนไลน์นั้นก็ทำได้โดยง่าย เพียงแค่เรากรอกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์ที่เราใช้ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อของรถ รุ่น ปี รูปแบบในการทำประกันที่ต้องการก็สามารถเปรียบเทียบรูปแบบของเบี้ยประกันภัยประเภทต่างๆ รวมถึงความคุ้มครองที่ประกันภัยครอบคลุมกันได้แบบง่ายมากๆ แถมยังสามารถเลือกซื้อประกันภัยในแบบที่เราต้องการกันได้ในทันทีอีกด้วย

นอกจากนี้อีกหนึ่งข้อดีของการเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์หรือการเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยผ่านทางออนไลน์นั้นจะมีการอธิบายเกี่ยวกับเงื่อนไขและการทำประกันภัยนั้นไว้อย่างละเอียด หรือถ้าหากเราไม่เข้าใจคำอธิบายข้างต้นก็สามารถติดต่อกับพนักงานที่คอยให้บริการทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีความสะดวกรวดเร็วมากกว่าช่องทางอื่น และไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง นัดหมายหรือเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานที่รับทำประกันภัยให้เสียเวลา เสียค่าเดินทางไปโดยเปล่าประโยชน์ การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ผ่านทางออนไลน์นั้นถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เราสามารถเลือกเบี้ยประกันที่มีความเหมาะสมกับตัวเราได้แบบเข้าใจได้ง่าย แม้แต่กระทั่งผู้ที่ไม่มีความรู้ทางด้านเบี้ยประกันก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

 ตัวอย่างของเบี้ยประกันภัยรถยนต์

  • เบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 (เบี้ยประกันที่มีค่าเบี้ยสูงที่สุด) แต่จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดความเสียหายในรูปแบบใด จะคุ้มครองทั้งตัวรถ ผู้ขับขี่ คู่กรณี หรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นั้นๆ
  • เบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้นที่ 2 และ 2+ (ค่าเบี้ยประกันรองจากลำดับแรก) ให้ความคุ้มครองเกือบเท่ากับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มในบางส่วนที่ต้องการเพิ่มเติมได้
  • เบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้นที่ 3 และ 3+ (เบี้ยประกันภัยที่ราคาถูกที่สุด) เป็นรูปแบบการประกันภัยที่ดอกเบี้ยจะถูกกว่าสองประเภทข้างต้น สามารถซื้อความคุ้มครองได้เฉพาะในบางกรณี เนื่องจากมีวงเงินในการคุ้มครองน้อยที่สุดนั่นเอง

สรุปแล้วการทำประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะกับตัวแทนขายประกัน และอาจทำได้มากขึ้นสำหรับยุคปัจจุบัน หากเลือกใช้บริการผ่านทางช่องทางออนไลน์ ทั้งสะดวก รวดเร็ว และยังมีอิสระภาพในการเลือกประกันที่ต้องการและเหมาะสมสำหรับตัวเราเองอีกด้วย